สัมภาษณ์จุนโฮ จาก SURE MARCH 2015: UNLOCK HIS MIDNIGHT
▣ ภาพยนต์ Twenty จัดแถลงข่าววันนี้
✔ ผมทักทายทุกคนในฐานะนักแสดงนำ มันเป็นความรู้สึกใหม่เลยละ 8 ปีที่ผ่านมาผมถูกสัมภาษณ์และมีงานแถลงข่าวมากมาย แต่วันนี้มันแตกต่างไปครับ ผมค่อนข้างประหม่า
▣ คุณทั้งตื่นเต้นและกระวนกระวายใช่ไหมก่อนที่จะเริ่มงาน
✔ โชคดีที่มันเหมือนกับภาพยนต์เรื่องแรก Cold Eyes และอีกเรื่องที่ยังไม่ฉาย Memories of the Sword ผมไม่ได้กระวนกระวาย แค่กังวลนิดหน่อยว่าผมจะเข้าถึงตัวละครได้ดีหรือเปล่า และคนจะมองว่าอีจุนโฮไม่เจิดจรัส ผมจะสร้างปัญหาไม่ได้ คุณเข้าใจไหม มันต่างกันเล็กน้อยกับการปล่อยอัลบั้ม ผมกับสมาชิก 2PM และครอบครัว JYPE มีส่วนร่วมอยู่ในกระบวนการผลิตทั้งหมด เราทำงานด้วยกันมานาน เรารู้ว่าต้องทำอะไรยังไง แต่การเป็นนักแสดงมันไม่ใช่แบบนั้น อีกมุมหนึ่งผมก็ตื่นเต้นกับความแปลกใหม่
▣ Twenty เป็นผลงานเดบิ้วต์การกำกับภาพยนต์ของอีบยองฮุน เขาเคยมีผลงานในภาพยนต์หลายเรื่อง “Scandal Makers,” “Sunny,” และ “Tazza: The Hidden Card.” เขาชื่นชมคุณด้วยว่า "เขาดูดีแบบคนทั่วไป แต่เขามีหน้าตาแบบนักแสดงที่น่ารัก"
✔ เขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ผมเพิ่งมาได้ยินวันนี้ตอนที่แถลงข่าว มันรู้สึกดีที่ได้รับคำชม ในการถ่ายทำนั้นผู้กำกับเป็นเหมือนพี่ชายเลยครับ เขามีความจริงใจ เป็นคนนิ่งขรึมไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมาเท่าไหร่ ผมทำตามที่เขาแนะนำโดยที่ไม่ได้มีการบังคับฝืนใจ
▣ "เพื่อนซี้ 3 คนที่ใช้ชีวิตโลดโผนไปด้วยกัน" คำอธิบายนี้น่าประทับใจนะ
✔ ทุกคนมีช่วงเวลาแบบนั้น คุณรู้ใช่ไหม มันเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านที่คุณโตแล้วแต่ยังมีความเป็นเด็กหลงเหลืออยู่ในหัวใจ ในกรณีของทงอู เขามีชีวิตที่ดีแต่เพราะปัญหาของครอบครัว เขาเลยกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวที่น่าสงสาร เขารู้สึกสับสนระหว่างการทำตามความฝันของตัวเองในการเป็นนักเขียนการ์ตูนหรือยอมรับความจริงและหาเลี้ยงครอบครัวของเขา
▣ คุณเองก็มีเรื่องต้องกังวลแบบนั้นเหมือนกัน?
✔ เราเหมือนกันตรงที่เราเจอความฝันของเราเร็วกว่าคนอื่นๆ ก่อนการเดบิ้วต์ของ 2PM สถานภาพตอนนั้นไม่อนุญาตให้ผมดูแลครอบครัวหรือทำในสิ่งที่ผมอยากทำ มันช่างเป็นอะไรที่แตกต่างร้ายแรงจริงๆ อย่างไรก็ตาม เป็นโชคดีของผม ที่บริษัทเป็นผู้ดูแลผม ผมรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ แม้มันจะเป็นแค่จินตนาการแต่ผมก็ยังด่ำดิ่งลงไปหามัน ประเด็นคือถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกโกรธที่จินตนาการนั้นไมมีวันเป็นจริง แต่ผมก็รู้สึกเห็นใจทงอู
▣ ดูเหมือนคุณจะมีความเห็นอกเห็นใจอยู่เป็นอย่างมาก
✔ ผมเห็นภาพในหัวผม บางครั้งผมรู้สึกเหนื่อยเพียงแค่เพราะการจินตนาการที่ไม่จำเป็น
▣ นั่นเป็นสิ่งที่น่าเบื่อสำหรับในชีวิตจริง แต่มันดีสำหรับการเป็นนักแสดงมืออาชีพ
✔ ถูกต้องครับ นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าการวิเคราะห์ตัวละครเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ภาพมายาและความเพ้อฝันช่วยในการแต่งเพลงมากเช่นกัน มันเหมือนคุณเล่นเกม "ถ้า..." กับเพื่อนๆคุณ คุณจะทำยังไงถ้าคุณชนะรางวัลลอตเตอรี่ 1 ล้าน มันเป็นจินตนาการของเกมที่ถ้ามีคนให้เงินล้านกับคุณพร้อมกับเงื่อนไขบางอย่าง ผมค่อนข้างจริงจังกับการเล่นเกมเด็กแบบนี้นะ
▣ นักแสดงนำ 3 คนที่อยู่ในช่วงอายุเดียวกัน อีจุนโฮ คิมอูบิน คังฮานึล เป็นยังไงบ้างเวลาผู้ชาย 3 คนอยู่ด้วยกัน
✔ เราพยายามเข้าหากันโดยปราศจากการมานั่งอธิบายโน่นนี่นั่น แค่มองตากันก็พอแล้ว เราเข้ากันได้ดี
▣ บุคลิกของพวกคุณเป็นอย่างไร?
✔ อูบินเป็นคนจริงจังแต่ก็มีไหวพริบ เขาได้รับความทุกข์ยากในตอนที่เขามาโซลเพื่อจะเป็นนายแบบ บุคลิกและสถานการณ์ของเราคล้ายๆกัน ผมชอบการที่ผมเหมือนจะรู้ใจเพื่อน ฮานึลเป็นคนมองโลกในเป็นแง่ดี เขาสดใสมาก ในตอนแรกผมเคยคิดว่าแกล้งทำ ผมไม่เคยเห็นเขาขมวดคิ้วหรือถอนหายใจ เขาหัวเราะตลอดเวลา นั่นคือสิ่งที่ฮานึลเป็น เป็นเหตุผลที่ทำให้ใครๆก็ชื่นชมเขา เขาเป็นเพื่อนคนที่ผมต้องเรียนรู้จากเขาอีกมาก
▣ สิ่งที่คุณได้รับจากภาพยนต์เรื่องนี้คือผู้คน?
✔ ภาพยนต์ที่ดี ผู้กำกับและเพื่อนระยะยาว
▣ ภาพยนต์เรื่องแรกของคุณ Cold Eyes ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด
✔ ทั้งเรื่องผมมีเวลาปรากฏตัวแค่ 7 นาที แต่บท"กระรอก"ดูเหมือนจะน่าประทับใจมากพอที่จะจดจำ นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมไปออดิชั่นการแสดงภาพยนต์ มันเป็นทั้งความบังเอิญและโชคดี ตอนนั้นผู้กำกับโจอุยซอคและคิมบยองซอบอกว่าหน้าผมมันดูเรียบๆไม่มีจุดเด่น สีหน้าผมแตกต่างไปตามแต่การปรับแต่ง(บทบาท) ผมรู้สึกขอบคุณมาก
▣ นั่นหมายความว่าคุณมีพันหน้า?
✔ ถ้าคุณมองในแง่ดีละก็นะ หรือไม่มันก็ทำให้คุณไม่มีความเป็นตัวเอง แต่พวกเขาบอกว่าพวกเขาชอบมันเพราะผมยังใหม่ ผมรู้สึกดีเพราะผมคิดว่ามันจะเป็นสเน่ห์ของผม มากกว่าการที่จะตื่นเต้นกับการได้รับคำชม มันกลับทำให้ผมอยากจะทำให้ดีขึ้น
▣ คุณเคยทำงานร่วมกับรุ่นพี่ แต่มาคราวนี้แตกต่างออกไปเพราะทำงานกับคนที่อายุเท่ากัน?
✔ รู้สึกหนักอึ้งในหัวใจ ผมคิดว่าเป็นเพราะความรับผิดชอบที่ถูกมอบหมายให้ ผมต้องรับผิดชอบถึง 1/3 ของทั้งหมด
▣ การแสดงน่าสนใจไหม?
✔ น่าสนใจมากเลยครับ เวลาที่ผมอยู่ในกองถ่าย ผมใช้ชีวิตเหมือนกับตัวละคร จะมีที่ไหนอีกที่ผมจะได้ใส่ชุดนักเรียนหรือทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านค้า? ผมคิดว่ามันเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งที่จะลองและมีประสบการณ์การใช้ชีวิตของคนอื่น การจินตนาการคือเรื่องหลักของผม ซึ่งมันยิ่งน่าสนุกมากขึ้น หลายครั้งที่ผมรู้สึกเสียใจหลังจากการถ่ายทำผมคอยคิดว่าผมควรลองทำโน่นนี่คราวหน้า ผมหมายถึงผมวิเคราะห์บทบาทได้ไม่ได้พอ ผมจัดการความรู้สึกขุ่นมัวนี้ด้วยการเตะไฮคิกผ้าห่ม(ดีดดิ้น)
▣ เวลาที่ไอดอลมีงานการแสดง ผู้คนก็จะจับตามองมากขึ้น
✔ เป็นเรื่องธรรมชาติครับ สิ่งที่ผมรู้สึกเสียใจคือนักแสดงก็ร่วมรายการวาไรตี้ได้ดีและก็ร้องเพลงได้ดีเช่นกัน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เราต้องทำให้ดี มันเป็นเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบในการจัดการ ถึงแม้ผมจะได้รับคำตำหนิต่อว่าผมก็จะผ่านมันไปให้ได้ คำต่อว่าและตำหนิถ้ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้องเราก็ควรรับฟังมัน แต่ถ้าหากมันเป็นเรื่องไร้สาระ เราก็แค่มองข้ามมันไป
▣ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการความรู้สึกต่อมัน
✔ มันอยู่กับผมมา 8 ปีแล้ว
▣ ถ้าคุณเจอมันมา 8 ปีแล้ว มันคือช่วงเวลาที่บางสิ่งที่คอย้ำเตือนความรู้สึกที่ไม่ดีผ่านเข้ามาและผ่านไปหลายต่อหลายครั้ง
✔ ผมดูละคร Misaeng แต่เข้าถึงมันเป็นที่สุด ในฐานะนักร้องผมอาจจะเป็นคนช่วยอำนวยการสร้างแต่ในฐานะนักแสดงผมเป็นแค่เด็กใหม่ อย่างไรก็ตามเมื่อคุณเติบโตขึ้นจนอยู่ในตำแหน่งผู้ดำเนินการคุณจะรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร แม้ว่าผู้อำนวยการในตอนนั้นจะไม่ได้บอกว่าให้คุณทำอะไร คุณรู้ว่าตอนไหนที่ต้องใช้ที่อะไร และเวลาพักคือตอนไหน อย่างที่คุณทราบมาแล้วว่า 2PM ผ่านการทดสอบและช่วงเวลาที่ยากลำบากมหลายครั้ง ทำงานจนกระทั่งร่างกายพัง อดทนต่อการถูกจับตามองจากผู้คน จากทั้งหมดแล้วความรู้สึกของการเป็นคนดังที่ได้เผยตัวต่อสาธารณะชนและเป้นที่ต้องการของพวกเขา นั่นมันคือช่วงเวลาที่ผมเคยโหยหามันเช่นกัน ผมหวังว่าผมจะมีโอกาสเผยตัวตัวเองด้วย ตอนนี้ผมงานยุ่งมาก แต่ผมหวังว่าผมจะยุ่งแบบนี้เสมอไป
▣ มองย้อนกลับไปตอนอายุ 20 คุณเป็นอย่างไร
✔ ผมรู้สึกวุ่นวายเป็นอย่างมากหลังจากการเดบิ้วต์ มันเป็นช่วงเวลาที่เราเรียนอะโครบาติคและทำการแสดงบนเวทีต่างๆ
▣ คิดว่าคุณคงไม่ค่อยมีเวลาคิดเรื่องตัวเอง
✔ เวลาเหล่านั้นผมได้ทุ่มเทร่างกายและความคิดไปให้กับตารางงานของเรา อย่างไรก็ตาม ผมคิดถึงอนาคตเป็นอย่างมาก ก่อนเข้านอนผมมีความคิดผุดขึ้นมาว่าชนะรางวัล และผมก็คิดว่าผมควรจะพูดอะไรดีเมื่อเราขึ้นไปรับรางวัล ถ้าผมคิดเรื่องแง่ลบที่มันไม่ดี ผมก็จจมดิ่งไปกับมันเป็นอย่างมาก เพราะอย่างนั้นผมก็เลยกำจัดปัญหานั้นเสียตั้งแต่ต้น
▣ จินตนาการกลายเป็นจริง
✔ มันดูเหมือนจะเป็นอย่างที่คุณหวังไว้ เมื่อคุณวาดหวังสิ่งที่คุรต้องการในอากาศ มันรู้สึกเหมือนกับว่าคุณคว้าบางอย่างไว้ได้ ในตอนแรกมันแลดูเหมือนจะเลือนลางริบหรี่และทันใดมันก็กลายเป็นจริงขึ้นมา
▣ จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต?
✔ นั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจรู้ได้
▣ นั่นมันเป็นการคิดที่แตกต่างไป
✔ มันอาจจะเป็นการมองโลกในแง่ดี แต่ไม่ว่าจะอย่างไรสิ่งนี่ก็จะผูกมัดคุณไว้อย่างมาก ประเด็นคือคุณจะเริ่มกังวลว่าจะต้องร่ำรวยแค่ไหนและต้องมีเกียรติขั้นไหนตามที่คุณปรารถนาขึ้นทันได้ เมื่อร่างกายคุณอ่อนล้า คุณจะเริ่มบ่นว่าคุณมีพอแล้วละ มันจะมีช่วงเวลาที่คุณคิดว่ามีแค่คุณที่รู้สึกไม่สนุกกับมัน จะรู้สึกกระวนกระวายว่ามันไม่ใช่การใช้ชีวิต และมันคือสิ่งที่คุณเคยฝันถึงอย่างมาก
(T/N ฝันอยากมีโน่นนี่มากมาย แต่เมื่อวันหนึ่งที่ทุ่มเทจนเหนื่อยมากๆ ก็จะรู้สึกไม่อยากมีไม่อยากได้อะไรแล้ว หลงลืมไปว่านั่นคือสิ่งที่เคยฝันใฝ่)
▣ นั่นเพราะคุณคือมนุษย์
✔ แน่นอนครับ ผมเห็นด้วยกับคุณ ผมยังไม่รู้สึกพอใจกับชีวิตของผม มันฟังเหมือนไม่มีความสุข แต่บางทีมันอาจหมายถึงมาตรฐาน(ที่ตั้งไว้)ในหัวของผมมันสูง มันตลกที่จะอธิบายออกมาว่าสูงยังไง ผมอยากจะบอกว่าสเปคของผมคือ สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน
▣ คุณจะไม่ย้อนกลับไปถึงแม้มีคนให้ตั๋วย้อนเวลากลับไปตอนอายุ 20
✔ ผมไม่กลับไปแน่นอนครับ ผมมีวันนี้เพราะผมอยู่นั่นในอดีต
▣ ความฝันที่เป็นมาตรฐานสูงของอีจุนโฮในตอนนี้คือ?
✔ อยากหม่ำไอศกรีมพิสตาชิโอที่อยู่ในตู้เย็นของผมให้หมด ผมชอบความสุขเล็กๆแบบนั้น
Transcription: 쟈니월이삐융 at Nunaissance
Scans: P_BADA_
Kor-Eng: Egle0702 @ 2pmalways
แปลไทย: @roseness_me
หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตให้ครบถ้วน
Comments
Post a Comment