Skip to main content

[แปล] สัมภาษณ์อูยองจาก BAILA, April 2015

สัมภาษณ์อูยองจาก BAILA, April 2015



R.O.S.E คือ การประกาศความรักของชายคนหนึ่ง


อูยองที่กำลังจัดทัวร์ทั่วประเทศภายใต้อัลบั้มเดี่ยว R.O.S.E กำลังครอบครองวงการเพลงของญี่ปุ่น เขาเรียกมันว่า "ของขวัญแด่แฟนของเขา" แล้วอะไรคือความคิดที่เขาบรรจงใส่ลงไปในดนตรีของเขากันล่ะ? เราถามอูยองคนที่กำลังเริ่มต้นย่างก้าวของศิลปิน


- นี่เป็นงานเดี่ยวงานแรกของคุณที่ญี่ปุ่น รู้สึกอย่างไรบ้าง?
อูยอง: หัวใจผมเต้นเร็วและเพราะว่ามันยาก คุณเรียกมันว่าอะไรนะ... หมดพลัง? ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด ผมหมายความว่าผมกำลังประหม่าและรู้สึกสนุกนี่ละคือสิ่งที่เป็น


- คุณเป็นแบบนั้นทุกครั้งที่จะขึ้นเวทีไหม?
อูยอง: ส่วนใหญ่ก็ใช่นะครับ (หัวเราะ) มันยากและก็มีหลายอย่างที่ผมกังวลถึง... มีความยุ่งยากในขั้นตอนของการทำดนตรี แต่การได้ทำงานกับทีมงาน ทำดนตรีของมาทีละนิดทีละหน่อยกลายเป็นความสนุก ถ้างานที่รังสรรค์ขึ้นมาทำให้แฟนๆพอใจได้ นั่นจะเป็นความสุขที่สุดสำหรับผม


- จากการสัมภาษณ์ก่อนหน้า คุณเคยบอกว่า "ของขวัญแด่แฟน" ได้ยินมาว่าตั้งแต่เรียบเรียงดนตรีไปจนทุกๆสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นความคิดของอูยอง
อูยอง: การเรียบเรียงดนตรี MV คอนเสิร์ต ทุกๆสิ่งอยู่บนพื้นฐานของความคิด/มุมมองของผมและการช่วยเหลือของทีมงาน นี่คือกระบวนการผลิต


- ขอทราบรายละเอียดทั้งหมดในการรังสรรค์ "ของขวัญ" ชิ้นนี้ได้ไหม?
อูยอง: แน่นอนครับ อืม... ในจำนวน 4 เพลงที่ทำขึ้นในครั้งนี้ เพลงแรกที่เสร็จ คือ "Happy Birthday"  ผมแต่งเพลงนี้ให้แฟนๆ ผมก็เลยใส่อารมณ์เข้าไปในเพลงนี้มากกว่าเพลง R.O.S.E


- ใน MV คุณมองกล้องและทำเหมือนกำลังป้อนสตรอเบอรรี่ให้ใครสักคน อยากทำแบบนี้กับแฟนๆหรือเปล่า?
อูยอง: (เสียงดัง) ใช่แล้ว! ผมคิดอยู่ตลอดว่าถึงสิ่งที่อยากทำร่วมกับแฟนๆ


- แล้วเพลงต่อไปล่ะ?
อูยอง: ผมคิดว่าน่าจะเป็น "Cocktail" ค็อกเทลเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง แต่มันไม่ได้จะทำให้คุณถึงกับเมามากและไม่แรงนัก แต่มันจะช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า เพลงนี้แต่งขึ้นด้วยความคิดที่ร้องเพลงคลไปขณะที่ฟังเพลงระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังจากเลิกงาน ไม่ใช่เวลาที่กำลังเจอปัญหาหรือมีทุกข์


- เพลงนี้ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณกำลังอยู่ในค็อกเทลเล้าจ์ที่มีชีวิตชีวาและมีความสุขใช่ไหม?
อูยอง: (ชูนิ้วชี้ทั้งสองข้างขึ้น) บิงโก! และเพลงต่อไปคือ R.O.S.E


- R.O.S.E เป็นเพลงที่สามที่คุณแต่ง?
อูยอง: ใช่ครับ ขณะที่กำลังร่างภาพจากคำว่า R.O.S.E ความคิดหลากหลายก็พุ่งเข้ามา R คือ เรือนกระจก O คือ ดอกไม้ S คือ ก้านดอก ในขณะที่ E คือ กระถางที่ใส่มัน ผมถามคนมีชื่อเสียงคนหนึ่ง เขาเป็นจิตรกรวาดภาพสีน้ำที่ญี่ปุ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหลายครั้ง และผลงานก็ออกมาเป็นภาพปกอัลบั้ม


- ความหมายของ "." ที่อยู่ในคำว่า R.O.S.E คืออะไร?
อูยอง: ตอนที่กำลังระบายสีดอกกุหลาบ ผมอยากใส่ความหมายให้แต่ละอักษร ผมก็เลยใส่จุดเข้าไป


- มีดอกไม้หลากหลายชนิด เพราะอะไรถึงเลือกดอกกุหลาบ?
อูยอง: เพราะมันมีหนาม ผมสงสัยมาตลอดว่าทำไมดอกไม้ที่สวยแบบนั้นถึงมีหนาม ดอกกุหลาบเป็นเป็นดอกไม้ที่น่ารักแต่เมื่อคุณจ้องมองมันนานๆ จะรู้สึกเจ็บปวดใจ เรื่องราว(ของเพลง)ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเปรียบเทียบว่าดอกกุหลาบคือผู้หญิง ใช่คุณกำลังยิ้มราวกับว่าคุณเป็นดอกกุหลาบแต่คุณต้องปกป้องตัวเอง คุณถูกปกคลุมไปด้วยหนาม ใครต่อใครหลงไหลในความงามของคุณแต่คุณไม่ได้ยอมรับมันง่ายๆ นั่นเป็นเพราะคุณกำลังมองหารักแท้ แต่เพราะหนามพวกนั้น ในความเป็นจริงแล้วคุณกำลังโดดเดี่ยวใช่ไหม? อย่างไรก็ตาม ผมรู้จักคุณ เพราะผมรู้ในสิ่งที่คุณกำลังมองหา นั่นคือความหมายเบื้องหลังของเพลงครับ อ่า ผมพูดจ้อไม่หยุดเลยใช่ไหมเนี่ย? สรุปก็คือ "คุณหวังที่จะมีรักแท้ใช่ไหม?" แค่นั้นละครับ (หัวเราะ) ท่อนที่ผมชอบมากคือ "คุณเบ่งบานโดยไม่มีผมไม่ได้หรอก" ไม่มีผม เธอก็ไปต่อไม่ได้ ลุ่มหลงมากใช่ไหมล่ะ? นี่คือการแสดงออกถึง "ความมั่นใจของผม" (ยกมือขวา) มันเป็นคำประกาศความรักของผู้ชายคนหนึ่งที่จะรักเพียงแค่คุณและเชื่อมั่นว่าจะเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดของคุณ


- มีเรื่องจากประสบการณ์จริงบ้างไหมนี่?
อูยอง: ไม่ครับ (หัวเราะ) มันเป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้น แค่นิยาย ถึงผมจะเคยมีประสบการณ์ที่ท่วมท้นไปด้วยอารมณ์ เมื่อหัวใจคุณกำลังเปี่ยมล้น มันก็ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องมีความรักใช่ไหมล่ะครับ?




การเปลี่ยนแปลงของเพลงที่เกิดขึ้นในค่ำคืนที่หิมะตกเมื่อ 4 ปีก่อน


- สุดท้าย "I know your shirts"
อูยอง: ธีมของเพลงเป็นเรื่องรักๆใคร่ๆ มันก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับผม


- เข้าใจแล้ว (หัวเราะ) อะไรทำให้คุณแต่งเพลงนี้?
อูยอง: เพลงนี้แต่งขึ้นตอนฤดูหนาวปี 2013 วันนั้นหิมะตกหนักมาก เวลาหิมะตก มันจะเงียบมากใช่ไหม? ผมเดินกลับบ้านตอนที่หิมะตกหนักมาก ตอนนั้นผมรู้สึกว่ากำลังเดินอยู่ท่ามกลาง White Darkness (ความมืดมนสีขาว) ผมนึกธีมของเพลงได้จากสิ่งนั้น "White Darkness" พอกลับถึงบ้านผมก็เริ่มลงมือแต่งเพลงทันที


- ความหมายเดิมของเพลงเกี่ยวกับความมืดมนสีขาว?
อูยอง: มันก็เป็นเพียงภาพร่างของทำนองก่อนที่จะมาเป็นบทเพลง เมื่อผมเอา White Darkness ให้เพื่อนที่ทำดนตรีด้วยกันกับผม พวกเขาบอกว่า "เพลงมันเศร้า แต่เราน่าจะเปลี่ยนให้มันเซ็กซี่ได้นะ" นั่นก็เลยกลายมาเป็น "to the inside of white darkness (ภายในความมืดมนสีขาว)" และมันเปลี่ยนมากขึ้นไปอีกเมื่อกลายเป็น "I know your shirts" การแต่งเพลงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ถ้าคุณดูผลสตรอเบอรี่ คุณจะแต่งเพลงออกมาได้ไม่แค่เพียงกล่าวถึงผลสตรอเบอรี่ มันอาจจะเป็นแตงโม จากเพลงที่เสร็จออกมาแล้วคุณจะไม่รู้เลยว่ามันมีที่มาจากหิมะและฤดูหนาว แต่จุดเริ่มต้นมันก็มาจากจุดนั้น


- ว้าว~ น่าสนใจจริงๆ!
อูยอง: เนื้อร่างของเพลงนั้นผมบันทึกไว้ในโทรศัพท์ทั้งหมด (เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและให้ทีมงานดู) นี่คือ White Darkness (ดนตรีบรรเลงจากเปียโน) และนี่คือ "to the inside of white darkness"  (เครื่องดนตรีหลายชิ้น มีเสียงร้องด้วย) มันถูกแต่งขึ้นทีละนิดทีละหน่อยท่ามกลางความกังวลใจว่าดนตรีและทำนองจะดีขึ้นไหมถ้ามันเป็น "darkness (ความมืดมน)" หรือ "blackness (ความดำมืด)"  ในบรรดาเพลงทั้งสี่ "I know your shirts" เป็นเพลงที่ผมเขียนคำร้องเสร็จเพลงแรก แต่ก็ใช้เวลาทำนานที่สุด




คำพูดไม่ใช่สิ่งจำเป็นระหว่างสมาชิกที่ผูกพันกันด้วยสายใจที่แน่นแฟ้น


- จากที่ดู MV เพลง R.O.S.E คิดว่าคอนเสิร์ตจะต้องถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจะประณีต
อูยอง: อืมมม... รายละเอียดมันก็คือรายละเอียด มันคงไม่เหมือน MV เพราะการทำ MV นั้นใช้เวลามาก พลัง และความแข็งแรงของร่างกาย จุดหลักของคอนเสิร์ตมันก็เหมือนกับมิวสิคัล แต่ผมจะไม่มีการพูดหรือร้องเพลงขึ้นมาทันทีทันใด (หัวเราะ)หมายความว่าแนวคิดของมันไม่ใช่แค่อยู่ที่กลางเวที ผมสามารถเคลื่อนย้ายไปรอบได้อย่างอิสระตามที่ผมชอบ


- ดูเหมือนต้องแข็งแรงมาก
อูยอง: (ถอนหายใจ) ใช่ครับ ช่วงนี้ผมดื่มวิตามินเยอะมากและดูแลสุขภาพเป็นประจำ


- สำหรับโปรเจคโซโล่คราวนี้ ได้คุยอะไรกับสมาชิกบ้าง?
อูยอง: นั่นนะ... ไม่เลย (หัวเราะ) ความสัมพันธ์ของพวกเราไม่ใช่การที่เราสนับสนุนกันและกันด้วยการพูดคุยหรือโทรหากัน เราทำกิจกรรมด้วยกันเสมอ เพราะฉะนั้นถึงแม้เราไม่ได้คุยกันเราก้เชื่อมั่นในสิ่งที่สมาชิกกำลังทำ ทุกคนเชื่อมั่นในตัวผม พวกเราผูกพันกันด้วยความไว้วางใจที่หนักแน่น ถ้าคุณพูดทุกอย่างออกมา มันก็จะมีความรู้สึกลำบากใจ


- เพราะคุณมาจากปูซาน? (ว่ากันว่าชาวปูซานจะเป็นคนที่เงียบขรึมและพูกน้อย)
อูยอง: ผมว่าคนปูซานมีสเน่ห์ แน่นอนว่าเวลาที่คุณมีความสุขและสนุกมากๆแต่คุณไม่สบายแสดงออกมาได้ มันก็จะทำให้คุณอึดอัด เรื่องคามสัมพันธ์ที่เป็นประเด็นตอนนี้นั้น ถึงแม้พวกเขาจะไม่กล้าพูดออกมา น่าประหลาดที่ผมมั่นใจว่าสมาชิกให้การสนับสนุนผม


- "มั่นใจ..." จะไม่กลายเป็นการกดดันใช่ไหม?
อูยอง: ผมก็รู้แบบนั้นนพ!! (หัวเราะ) แต่ก็เป็นการกดดันที่ดีใช่ไหมล่ะครับ?


- เป้าหมายของการเป็นศิลปิน
อูยอง: จากทั้งหมด ที่ผมเป็นอยู่คือผมมุ่งเป้าไปที่การเป็นที่จดจำของผู้คนในฐานะผู้ชายที่ชื่อจางอูยอง และมีชีวิตอย่างที่จางอูยองเท่านั้นที่จะมีได้ จนกระทั่งตอนนี้ผมก็ยังคงยึดมั่นกับความคิดที่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมยืนอยู่บนเวทีผมจะต้องมีภาพลักษณ์ที่เท่ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามผมจะต้องดูดี อย่างไรก็ตามผมเริ่มมาคิดได้ว่าการยึดมั่นกับความคิดแบบนั้นทำให้ผมมีข้อจำกัด นั่นทำให้เดี๋ยวนี้ผมต้องการแสดงออกถึงอารมณ์ที่ลึกซึ่งให้ผู้คนได้รับรู้ ในขณะเดียวกันก็ริเริ่ม"บางอย่าง"ที่ทำให้ผมกับผู้คนแสดงอารมณ์ร่วมไปด้วยกันได้ มันอาจจะเป็นดนตรี เสื้อผ้า หรือแม้แต่การเต้น

ในตอนนี้เวลาทั้งหมดผมทุ่มให้กับโปรเจคโซโล่ ผมแต่งเพลงด้วยตัวเอง นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าผมโตขึ้น ผมคิดว่าชายหนุ่มจะต้องเป็น "คนที่มีมุมมองกว้างขวาง" หรือ "คนที่แสดงให้เห็นถึงความคิดที่ยิ่งใหญ่" จากโปรเจคนี้ ผมพาตัวเองผ่านบททดสอบและความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นทำให้ผมเข้าใจถึงการเป็น"มนุษย์"ที่เป็นผู้สร้างสรรค์อย่างแท้จริงซึ่งใช้ความคิดไปอย่างมากมายในการใช้ชีวิต แต่จากทั้งหมดก็ทำให้ผมคิดได้ว่าประสบการณ์เหล่านั้นเป็นสิ่งนำทางให้มนุษย์อย่างเราเติบโตใช่ไหม?




- ตอนให้สัมภาษณ์ครั้งก่อน คุณบอกว่า "เพราะช่วงเวลาแห่งการเติมพลัง ทำให้ผมรู้สึกอิสระ" เป็นเพราะคุณโดน... เช่น เพราะคุณอยากที่จะเท่/ดีเยี่ยม?
อูยอง: (ทำตาโต) คุณเข้าใจมันจริงๆซินะ


- ขอโทษนะถ้าจะตรงประเด็นไปหน่อย
อูยอง: ตรงกันข้ามเลยครับ ถ้าหากคุณไม่เข้าใจ การสัมภาษณ์นี้ก็จะเป็นแค่สิ่งที่ผมทำเพื่อฆ่าเวลา แต่เพราะผมได้รับการตอบกลับ นั่นทำให้ผมนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ด้วย เพราะฉะนั้นผมจึงรู้สึกขอบคุณเช่นกัน อืมมมม จวบจนกระทั่งก่อนถึง"ช่วงเวลาแห่งการเติมพลัง" ในหัวของผมมีแต่ "ฉันต้องทำมัน" เพราะแบบนั้นผมเลยเหมือนโดนจำกัดขอบเขตด้วยคำพูดและการกระทำของตัวเอง ผมเคยมีปัญหาแต่เพราะผมมีเวลาที่จะคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนและจริงจังก็เลยทำให้ผมพัฒนาตัวเองและผมจัดการสร้างสรรค์เพลง "R.O.S.E" ของผม ช่วงเวลาที่ได้ก้ามข้ามความกังวล/ปัญหาเหล่านั้น มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญและจำเป็นที่สุดของชีวิตผม


- สุดท้าย ฝากข้อความถึงคนอ่าน
อูยอง: จากก้นบึ้งของใจผม ผมรู้สึกขอบคุณคนอ่าน BAILA และทีมงานที่ได้ให้โอกาสผมได้เปิดเผยตัวตนในหลายๆด้าน การสัมภาษณ์นิตยสารเป็นจุดเริ่มต้นของการสื่อสารกับคนอ่าน เพราะแบบนั้นผมก็เลยตระหนักอย่างถี่ถ้วนถึงเรื่องราวในบทสัมภาษณ์และเวลาที่ได้มช้ไป ทุกๆคนครับ ถ้าบทสัมภาษณ์นี้จะสามารถเป็นของขวัญชิ้นน้อยหรือช่วยสร้างพลังความเข้มแข็งให้คุณ จะไม่มีอะไรทำให้ผมรู้สึกมีความสุขได้มากกว่านี้อีกแล้ว





จากมุมมองของผู้สัมภาษณ์
"การสัมภาษณ์ที่ยาวนาน แต่อูยองก็ไม่เคยที่จะละความสนใจไปจากการให้สัมภาษณ์ ทุกคำพูดทุกถ้อยคำของเขาสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เขาคิด ความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการทำงานโปรเจคโซโล่เขา ความรักที่เขามีให้แฟนๆอย่างมากมายถูกถ่ายทอดออกมาอย่างน่าหลงไหล นั่นเป็นสิ่งแรกที่เราอยากบอก ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขาเห็นทีมงานไอในระหว่างที่กำลังสัมภาษณ์ อูยองก็ให้ลูกอมกับทีมงานทุกคนและบอกว่า "ช่วยตัวเองนะครับ" "คุยกันมาซะยาว คุณน่าจะหิวน้ำนะ... อ่า! อร่อยมากอ่ะ!" หนุ่มที่แก้มป่องเพราะลูกอมของตัวเอง ภาพนั้นตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเรา และเขายังเป็นสุภาพบุรุษที่แสนใจดีกับหนุ่มน้อยที่มีดวงตาที่ไร้เดียงสา"




JPN-ENG: @jngwyng @coded4d9dc
แปลไทย: @roseness_me
หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตให้ครบถ้วน

Comments

Popular posts from this blog

[แปล] JUNHO (2PM) - WINTER SLEEP (겨울잠)

JUNHO (2PM) - WINTER SLEEP (겨울잠) ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก เวลาผ่านเลยไป แต่ฉันยังคงอยู่ที่เดิม ก้าวที่หนึ่ง ก้าวที่สอง เธอก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ฉันทำได้แค่มองเบื้องหลังเธอ ขอเวลาฉันหน่อย ฉันอยากขอเวลาหายใจ ฉันมองกระจกและได้แต่พยายามหักห้ามตัวเองนับพันครั้ง ฉันไม่อยากบอกลา ถ้าฉันปล่อยเธอไป ฉันก็จะอยู่เพียงลำพัง ได้โปรดอยู่กับฉันต่ออีกหน่อย หิมะสีขาวโปรยปรายจากท้องฟ้า ฉันแค่อยากนอนหลับ เธอเป็นไงบ้าง? อยากพักบ้างไหม? ฉันไม่อยากตื่นขึ้นมาสักพัก วันที่หนึ่ง วันที่สอง กี่ปีแล้วนะ? หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปในสิบปี เราเริ่มมันพร้อมกันแต่ทำไมเธอถึงนำหน้าฉันเสมอ? อะไรทำให้เธอยุ่งมากมาย? เธอไม่เคยมองย้อนกลับสักครั้ง เธอมองที่แห่งใดอยู่หรือ? เธอกำลังยิ้มอยู่หรือเปล่า? หรือกำลังร้องไห้? ฉันอยากรู้ว่าเธอรู้สึกยังไง เธอแบกความเหงาอ้างว้างหนักอึ้งเอาไว้ ทำไมถึงวิ่งอยู่ลำพังคนเดียวล่ะ? สำหรับฉัน บางครั้งก็อยากร้องไห้ บางครั้งก็อยากตะโกนและยอมแพ้ บางครั้ง ฉันเหมือนไม่ใช่ตัวฉันเอง ฉันยังคงเป็นฉันที่อายุ 17 ที่มีความฝันมากมาย รู้สึกเห

[แปล] JUNHO (FROM 2PM) - ICE CREAM

JUNHO (FROM 2PM) - ICE CREAM ที่รักบอกวิธีที่จะรักแก่ผมหน่อย ผมยังคงไม่เข้าใจคุณ (บอกผมถึงวิธีที่จะรัก) แต่กลิ่นหอมหวานนั้น (บอกผมถึงวิธีที่จะรัก) คุณได้ยินสิ่งที่ผมเคยบอกไหม เมื่อมีความรัก อย่างช้าที่ผมจะไม่เป็นตัวเอง ผมจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกถึงใจที่เต้นระรัว หอมหวาน อยู่ด้วยกันกับคุณ ในหัวใจ อยู่ด้วยกันกับคุณ วานิลลา กล้วย เชอร์รี่ และช็อคโกแลตพิสตาชิโอ มานี่เร็วๆ ผมมีที่ไว้ให้คุณ เร็วขึ้น เร็วขึ้น คุณคนที่ทำให้คนอื่นไร้ซึ่งความมั่นใจในฤดูร้อนอันร้อนแรง ผมพร้อมที่จะจู่โจมคุณ ดอกไม้แสนหวานได้เบ่งบาน ปัดเป่าความร้อนออกไปจากเราสอง เยียวยาจากความร้อน หลอมละลายในไม่ช้า มันที่อยู่ในปากของคุณ โถ่ ผมไม่สามารถยืนหยัดไว้ได้ ขอไอศกรีมให้ผมเถอะนะ สายตาของคุณทำให้ผมกระวนกระวาย (บอกผมถึงวิธีที่จะรัก) เริ่มจริงจัง พลุ่งพล่าน (บอกผมถึงวิธีที่จะรัก) ให้ผมได้ฟังเสียงคุณ สิ่งที่คุณต้องการที่จะทำ ผมจะมอบให้คุณในทุกความปรารถนา ผมจะยิ่งยั่วเย้าคุณ ใช้ปลายนิ้วของคุณและทำให้มันจบในทันที วานิลลา กล้วย เชอร์รี่ และช็อคโกแลตพิสตาชิโอ มากขึ้น